01 กรกฎาคม 2556

วิธีปลูกบัวในบ่อปลาสวยงาม ไม่ให้น้ำขุ่น


โดยธรรมชาติของปลาแทบทุกประเภทจะมีลักษณะนิสัยชอบคุ้ยเขี่ยหาของทานเล่นไปทั่ว ยิ่งถ้ามีดินแล้วยิ่งไม่พลาดเลยครับ โดยกับปลาบางประเภทอย่างปลาทอง ในช่วงอนุบาลเค้าจะนิยมเลี้ยงในบ่อดินแบบธรรมชาติ เพราะจะทำให้โตเร็ว แต่ถ้าถามว่าปลากินดินเป็นอาหารเหรอ อันนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่ามันกินดินโดยตรง หรือแค่คุ้ยหาอาหารที่อยู่ในดิน ... ออกนอกเรื่องได้ซะได้ ขอกลับเข้าประเด็นนะครับ แน่นอนว่าลักษณะนิสัยชอบคุ้ยดินนั้น ย่อมทำให้น้ำในบ่อปลาของคุณขุ่นแน่นอน ส่วนวิธีแก้ไขก็ไม่ยากเลยครับ

อย่างแรกเราต้องพิจารณาเรื่องดินก่อนครับ ว่าดินที่เรานำมาปลูกบัวนั้นเป็นดินที่ถูกต้องหรือไม่ ดินที่เหมาะกับการปลูกบัว แน่นอนว่าต้องเป็นดินเหนียว ไม่ใช่ว่าคุณจะไปขุดดินหลังบ้านแล้วเอามาแช่น้ำ ปลูกบัวได้ ถ้าทำอย่างนั้น จะทำให้น้ำเน่าแน่นอนครับ ดินเหนียวที่มีลักษณะดี เหมาะกับการปลูกบัวคือ ต้องมีลักษณะเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกันหมด คล้ายๆดินน้ำมันเลยครับ โดยดินบัวที่ดี มักจะใช้การขุดขึ้นมาจากบ่อ หรือคลองธรรมชาติ ถ้ากรณีที่เราหาไม่ได้ ดินบัวสำเร็จรูปมีขายทั่วไปเลยครับ

ส่วนเคล็ดลับในการปลูกบัวในบ่อปลาไม่ให้น้ำขุ่นนั้น ก็ง่ายนิดเดียวครับ คือการปลูกบัวในกระถางก่อนนั้นเอง เราไม่ควรเทดินจำนวนมากลงในบ่อปลาสวยงาม เพราะเป็นสิ่งที่เราควบคุมยาก ทั้งปริมาณจุลลินทรีย์ในน้ำที่ช่วยในการย่อยสลายของเสีย ปริมาณอ๊อกซิเจน และแสงแดดอีก ยิ่งมีดินเยอะ ยิ่งทำให้น้ำเสียง่ายครับ การปลูกบัวในกระถางเสียก่อนจะช่วยจำกัดปริมาณดินในน้ำให้เหมาะสม และถ้าเราต้องการป้องกันการคุ้ยดินของปลาให้ดียิ่งขึ้น เราสามารถหากรวดก้อนเล็กๆมาโรยให้ทั่วหน้าดิน แต่อย่าโรยแยะหรือเป็นชั้นหนานะครับ เพราะจะทำให้บัวเน่าได้ ให้โรยบางๆประจายๆก็พอ

อีกส่วนสำคัญในตอนที่เราปลูกบัวน้ำ ไม่ควรนำดินเหนียวมากลบบริเวณโคนต้นส่วนที่เป็นราก ควรเว้นระยะนิดหน่อยบริเวณโคนต้น เพื่อให้รากสามารถชอนไชและรับอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเวลาใส่ปุ๋ย ก็ไม่ควรใส่ชิดกับโคนต้น เพราะจะทำให้รากเน่าได้

อีกปัจจัยนึงที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่งในการปลูกบัว คือแสงแดดครับ บัวเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตรงกันข้ามกับบ่อปลาสวยงามที่ไม่ต้องการแสงแดดจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำร้อนจนปลาตายได้ แต่การที่ไม่โดนแดดเลยก็อาจจะทำให้บัวเน่าตายได้ ดังนั้นเราควรสร้างบ่อปลาไว้ในมุมที่สามารถรับแดดได้ในตอนเช้าหรือเย็น และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่โดนแดดร้อนจัดในตอนกลางวันนั่นเองครับ และควรระวังไม่ให้น้ำมีลักษณะขุ่นข้น แสงแดดควรสามารถลอดลงไปถึงก้นบ่อได้บ้าง

เราควรเติมน้ำใหม่ลงในอ่างบัวเป็นระยะ โดยการใช้สายยางดูดเอาน้ำเก่าออกมาบางส่วน ประมาณ 30-50 % ของอ่างบัว แล้วจึงเทน้ำที่พักคอลลีนไว้แล้วลงไปเบาๆ เพื่อถ่ายเอาสิ่งสกปรกออกมา่บ้าง


( Photo Credit : 
click )





ข อ ฝ า ก ร้ า น ด้ ว ย น ะ ค รั บ
แวะเลือกชมสินค้าราคาโปรโมชั่น พร้อมรับของแถม
และอุปกรณ์ตู้ปลาอื่นๆอีกมากมายได้ที่
ร้ า น บ้ า น ป ล า @ S H O P E E
 -------------------------------------------------------

ปั๊มออกซิเจน (รุ่น 1 หัว) อุปกรณ์ครบชุด พร้อมใช้งาน
ราคา 119 บาท

ชุดน้ำพุ พร้อมปั๊ม และกระบอกกรอง
ราคา 199 บาท

ปั๊มน้ำตู้ปลา พร้อมกระบอกกรองไมโครทำให้น้ำใส พร้อมเพิ่มออกซิเจนในน้ำ
ราคา 169 บาท




3 ความคิดเห็น:

  1. ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณมาก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 พฤษภาคม, 2565 07:09

    ที่บ้านมีอ่างปลาทองอยู่ในบ้านติดริมหน้าต่าง มีแสงผ่านแต่แดดไม่ค่อยถึง แต่ตอนนี้เอาบัวมาลงในอ่างปลาทองแล้ว ปัญหาที่ตามมาคือ1.น้ำขุ่นตลอด และ2. ใบบัวโดนแทะ/กิน ไป 3.บัวจะรอดไม๊เพราะมีแต่แสงส่องถึง จะแก้ไขปัญหายังไงดีค่ะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น